ผลการประชุม ครม. วันนี้ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า โดนปัดตก ให้การคลังแก้ไขกฎกระทรวงแทน ชี้ ร่างกฎหมายที่สภาเสนอให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการผลิตสุราที่ “ไม่ใช่เพื่อการค้า” รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (29 มี.ค. 2565) ว่าที่ประชุม ครม. มีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า หรือร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเสนอให้นำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อพิจารณาภายใน 60 วัน โดยที่ประชุม ครม. มีความเห็นว่าร่างหลักการแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรสามิต ฉบับดังกล่าวที่เสนอโดยสภามีสาระเป็นการให้เสรีภาพแก่ประชาชนในการ “ผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้า” ในเรื่องนี้ ครม. เห็นว่า การผลิตสุราที่ไม่ใช่เพื่อการค้าสามารถกระทำได้โดยควรอยู่ภายใต้การกำกับดูแลในเรื่องคุณภาพ และสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค
ดังนั้น ครม. จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณาแก้ไขกฎกระทรวงในบางเรื่องเพื่อไม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของประชาชน
โดยยังคงควบคุมดูแลให้การผลิตสุราอยู่ภายใต้มาตรฐานด้านสุขภาพของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่จำเป็นต้องแก้ไขร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ตามที่สภาผู้แทนราษฎรเสนอ
สำหรับร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ …) พ.ศ. … หรือ ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวนั้น เสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎรโดยเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2565 และสภาลงมติรับหลักการให้ ครม. นำไปพิจารณาต่อเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2565 มีจุดประสงค์เพื่อให้การขออนุญาตผลิตสุรา “เพื่อการค้า” สำหรับผู้ผลิตรายย่อยสามารถทำได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น
โดย นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะ ผอ.สบนร. กล่าวว่า สบนร. จะถ่ายโอนภารกิจเว็บไซต์ดังกล่าวให้ทาง TICAC ที่อยู่ในศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันการปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง (ศพดส.ตร.) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับภารกิจให้ดูแลต่อไป
สำหรับ “โครงการแก้ไขจัดการปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ภายใต้โครงการประชารัฐยุติธรรมนำเด็กปลอดภัย” มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ปัจจัย
ประเด็นปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อหาแนวทางการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันของหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและประชาสังคม
รวมทั้งเพื่อสร้างต้นแบบ “เว็บไซต์” ช่องทางในการสื่อสารให้ข้อมูล ให้คำแนะนำปรึกษาและการร้องเรียน แก่เด็กผู้ปกครองหรือเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น และช่องทางการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เหมาะสมเกี่ยวกับ
‘ประยุทธ์’ ยืนยัน ฟาวิพิราเวียร์ มีพอ จับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โฆษกสำนักนายกฯ เผย ประยุทธ์ ยืนยันว่า ฟาวิพิราเวียร์ มีเพียงพอ โดยนายกฯจับตาดูการจัดการยาอย่างใกล้ชิด เผยกระจายยาไปแล้วทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 72.52 ล้านเม็ด
นาย ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามการบริหารจัดการเวชภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด – 19 พร้อมกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้สามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยัน “ยาฟาวิพิราเวียร์” มีเพียงพอสำหรับใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด – 19 โดยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2565 องค์การเภสัชกรรมได้ผลิตและจัดหายาฟาวิพิราเวียร์เข้ามารวม 128.1 ล้านเม็ด โดยในช่วงวันที่ 1 – 28 มีนาคม 2565 มีการผลิตและจัดหายาจำนวน 73.9 ล้านเม็ด และได้มีการกระจายยาให้ทุกจังหวัดทั่วประเทศไทยจำนวน 72.52 ล้านเม็ด
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ยังสนับสนุนให้มีการใช้ยารักษาผู้ป่วยโควิด 19 หลายชนิด ทั้งยาฟ้าทะลายโจร ฟาวิพิราเวียร์ เรมดิซิเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์
ล่าสุดคณะรัฐมนตรืยังอนุมัติเห็นชอบให้มีการจัดหายาแพกซ์โลวิดเข้ามาเพิ่มเติม โดยในส่วนของยาฟาวิพิราเวียร์ ข้อมูลวันที่ 28 มีนาคม 2565 มียาคงคลังทั่วประเทศ 25 ล้านเม็ด อยู่ในส่วนกลาง 2.2 ล้านเม็ด ในโรงพยาบาลต่าง ๆ 22.8 ล้านเม็ด ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันไทยมีระบบสาธารณสุข ที่มีสมรรถนะในการบริการประชาชนและเตรียมพร้อมในการรองรับทุกสถานการณ์ด้วยแล้ว
“การได้รับความร่วมมือจากกระทรวง กรม กองต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมกันเป็นทีมสหวิชาชีพ” ภายในเว็บไซต์ดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้เสียหายเป็นรูปธรรมตามนโยบายของรัฐบาล
รวมทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดตั้งคณะทำงานปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (Thailand Internet Crimes Against Children หรือ TICAC) เพื่อปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดที่ครอบครอง และแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากสื่อลามกอนาจารเด็กทางอินเทอร์เน็ต ตามนโยบายของรัฐบาลด้วย
การลดการดื่มแอลกอฮอล์ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรม และอุบัติเหตุทางถนนลดลงด้วย และ นอกจากนี้ ยังทำให้ ประเทศไทยได้รับการยอมรับการเป็นหนึ่งในผู้นำการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับนานาชาติ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป